[ultimate_heading main_heading=”ระเบียบปฏิบัติสำหรับสมาชิกประเภทชมรมและสมาคม” heading_tag=”h3″ spacer=”line_only” spacer_position=”bottom” line_style=”inset” line_height=”1″ line_color=”#ad974f” line_width=”500″]

ของสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย)

[/ultimate_heading]

[ult_content_box border=”border-style:dotted;||border-color:#8e793e;” box_shadow=”horizontal:px|vertical:px|blur:px|spread:px|style:outset|” hover_box_shadow=”horizontal:px|vertical:px|blur:px|spread:px|style:none|” margin=”margin:20px;” hover_border_color=”#8e793e”]

เพื่อกำหนดคุณสมบัติของสมาชิกประเภทชมรมให้มีความเหมาะสม สมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) จึงกำหนดระเบียบสำหรับสมาชิกประเภทชมรมดังนี้

1. ชมรมที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ จะต้องมีสมาชิกของชมรมไม่น้อยกว่า 20 คน

2. การขอสมัครเป็นสมาชิกประเภทชมรม ให้ประธานชมรมยื่นคำขอเป็นหนังสือต่อนายกสมาคมฯ พร้อมแนบข้อบังคับของชมรม, รายชื่อ ที่อยู่ ของกรรมการชมรมและผู้เป็นสมาชิกชมรมมากับคำขอด้วย เมื่อนายกสมาคมฯได้รับคำขอสมัครเป็นสมาขิก พร้อมทั้งข้อบังคับของชมรม รายชื่อ ที่อยู่ของกรรมการชมรมและสมาชิกชมรมแล้ว นายกสมาคมฯ จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสมาคมฯ เมื่อคณะกรรมการสมาคมฯได้พิจารณาแล้ว มีผลเป็นประการใด เลขานุการสมาคมฯจะแจ้งผลให้แก่ชมรมทราบภายใน 30 วันนับแต่วันที่ประชุมคณะกรรมการสมาคมมีมติ

3. ชมรมจะต้องมีข้อบังคับของชมรม โดยข้อบังคับของชมรมอย่างน้อยต้องมีรายการดังต่อไปนี้

  • ชื่อชมรม
  • วัตถุประสงค์ของชมรม
  • ที่ตั้งของชมรม
  • วิธีการรับสมาชิก และการขาดจากสมาชิกภาพ
  • ข้อกำหนดเกี่ยวกับคณะกรรมการของชมรม ได้แก่ จำนวนกรรมการ การตั้งกรรมการ วาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการ การพ้นจากตำแหน่งของกรรมการ และการประชุมของคณะกรรมการ ทั้งนี้ประธานชมรมจะต้องมาจากการเลือกตั้ง และต้องให้ สิทธิ์สมาชิกของชมรมสามารถเรียกประชุมใหญ่วิสามัย เพื่อแต่งตั้งและหรือถอดถอนคณะกรรมการของชมรมได้

4. การแต่งตั้งกรรมการของชมรมขึ้นใหม่ทั้งชุด หรือการเปลี่ยนแปลงกรรมการของชมรมให้กระทำตามข้อบังคับของชมรม และชมรมจะต้องแจ้งเป็นหนังสือให้แก่นายกสมาคมทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีการแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการของชมรม

5. ชมรมจะต้องจัดให้มีการประชุม หรือสัมมนา หรือสัมมนาหรือกิจกรรมใดๆ เป็นการให้ความรู้ในเชิงวิชาการเกี่ยวกับสุนัขที่ชมรมเกี่ยวข้อง เผยแพร่ให้แก่สมาชิกของชมรม และหรือประชาชนทั่วไปได้รับทราบ รับรู้ หรือร่วมกิจกรรมกับชมรม หรือจัดประกวดสุนัขอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง แต่ทั้งนี้จะจัดประกวดสุนัขชิงแชมป์ประเทศไทยโดยการรับรองของสมาคมได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี หากจะจัดเกินกว่านี้จะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการสมาคมฯ

6. ชมรมจะต้องชำระค่าบำรุงสมาคมฯเป็นรายปี ในอัตราปีละ 2,000 บาท

7. ในกรณีที่ชมรมค้างชำระค่าบำรุงสมาคมฯ หรือค่าธรรมเนียมใดๆ และได้รับหนังสือเตือนให้ชำระจากเลขานุการสมาคมฯแล้ว แต่เพิกเฉยไม่ยอมชำระภายในกำหนดที่ระบุไว้ในหนังสือเตือนดังกล่าว คณะกรรมการสมาคมอาจมีมติถอดถอนสมาชิกภาพของชมรมได้

8. ชมรมจะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับ และระเบียบของสมาคมฯโดยเคร่งครัด

9. หากชมรมได้ดำเนินการใดๆ เป็นการขัดต่อข้อบังคับ หรือ ระเบียบของสมาคมฯ หรือมติใดๆ ของคณะกรรมการสมาคมฯ หรือกระทำการใดๆอันอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่สมาคมฯ และหรือสมาชิกอื่นใดของสมาคมฯ คณะกรรมการสมาคมฯอาจมีมติถอดถอนสมาชิกภาพของชมรมได้

10. ในกรณีอื่นๆที่ไม่สามารถปฏิบัติตามที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการสมาคมฯ

11. ในกรณีที่สมาชิกประเภทชมรมของสมาคมฯได้เป็นสมาชิกอยู่ก่อนหน้าที่ระเบียบปฏิบัตินี้มีผลบังคับใช้ ให้ชมรมนั้นปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัตินี้ ให้แล้วเสร็จภายในกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่ระเบียบปฏิบัตินี้มีผลบังคับใช้

บทเฉพาะกาล
ระเบียบนี้ออกโดยมติที่ประชุมคณะกรรมการสมาคมฯ ครั้งที่ 2/2544 วันที่ 7 พฤศจิกายน 2544 โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2544 เป็นต้นไป ( ผศ.ทพ.พาสน์ศิริ นิสาลักษณ์ ) นายกสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย)

[/ult_content_box]